BEFORE & AFTER
ดวงตาสดใสและมีเสน่ห์ ✔
ชั้นตาดูเป็นธรรมชาติ ไม่บางหรือหนาเกินไป ✔



ดวงตาในอุดมคติเป็นอย่างไร?

1. ต้องเผยให้เห็นตาดำประมาณ 90 %
2. ดวงตากลมโต (ความกว้างในแนวตั้งประมาณ 8~10 มิลลิเมตร, ความยาวประมาณ 27-29 มิลลิเมตร)
3. สัดส่วนตาขาวจากด้านหน้า(หัวตา) จนถึงด้านหลัง(หางตา) มีสัดส่วนเท่ากับ 4:5
4. ชั้นตาสองชั้นบาง (ไม่หนาจนเกินไป)

5. ดวงตาที่สดใสและเป็นธรรมชาติจะต้องมีขนาดความกว้างในแนวตั้งเท่ากับ 1 ใน 3 ของความยาวดวงตา ซึ่งระยะห่างของดวงตาทั้งสองข้างต้องมีความกว้างเท่ากับความยาวของดวงตาหนึ่งข้าง

6. จะมีลักษณะของหางตาอยู่ในตำแหน่งที่สูงมากกว่าหัวตา บริเวณหัวหาต้องไม่ปิดทับแอ่งน้ำตา หนังตาไม่หย่อนคล้อยหรือนูนออกมามากจนเกินไป อีกทั้งไขมันใต้ตาต้องไม่นูนออกมามากเกินไปเช่นกัน และบริเวณใต้ตาจะต้องไม่หมองคล้ำ



7. หัวตาจะอยู่ในตำแหน่งที่ขนานกับเส้นเริ่มจากด้านในหัวคิ้วจนถึงปีกจมูก
8. หางตาจะต้องอยู่ในตำแหน่งขนานกับเส้นตรงตั้งแต่หางคิ้วจนถึงปีกจมูก
9. โดยปกติแล้วปุ่มเนื้อตรงหัวตาจะเห็นประมาณ 70-80% จึงจะเหมาะสม หากน้อยกว่านี้จะทำให้ดวงตาดูเล็กแคบ หรือถ้ามากเกินไปจะดูเหมือนตาเหล่
วิธีทำตาสองชั้น
วิธีที่ 1: วิธีกรีดเฉพาะจุด
เหมาะสำหรับคนที่ต้องการวิธีเย็บแต่มีไขมันเปลือกตาเยอะ
หรือ คนที่ต้องทำวิธีกรีดแต่กังวลเรื่องรอยแผล หรือความบวม

วิธีที่ 2: วิธีกรีด
เหมาะสำหรับคนที่ต้องการชั้นตาหนา, คนที่มีตาเหมือนคนง่วงนอน หรือคนที่ต้องการแก้ชั้นตาใหม่

*วิธีการศัลยกรรมแต่ละแบบจะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน การเลือกวิธีจะขึ้นอยู่กับสภาพผิวและรูปแบบชั้นตาที่ต้องการ
วิธีที่ 3: วิธีเย็บ
เหมาะสำหรับคนที่ของการชั้นตาที่เป็นธรรมชาติ

ปรึกษาโทร 02-7147665, 02-7147663 Line Official : http://line.me/ti/p/@stmstyle 👉ลงทะเบียนปรึกษาฟรี https://goo.gl/HEhVpJ 👉เว็บไซต์ www.stmstyle.com
ที่มา
เนื้อหา: GRACE PLASTIC SURGERY
รูปภาพ: STMstyle, GRACE PLASTIC SURGERY, BANOBAGI
เรียบเรียง: STMstyle